หลายๆคนที่สนใจการตลาดออนไลน์ สิ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำให้ทุกคนโฟกัสก่อนทำโฆษณา ก็คือการเริ่มวางแผนการตลาดก็คือ Marketing Funnel
Marketing Funnel คืออะไร?
Marketing คือการตลาด | Funnel คือ ปล่องหรือกรวย
Marketing Funnel คือ กรวยทางการตลาดที่เราใช้ศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมของ User(ผู้ใช้ก่อนจะเป็นลูกค้า) ว่าพฤติกรรมลูกค้าแต่ละแบบนั้น จัดอยู่ใน Marketing Funnel ระดับไหนกันบ้าง
เพื่อที่เราจะได้นำ Marketing Funnel มาใช้ในการสร้างเครื่องมือทางการตลาดว่ามันเหมาะสมกับแต่ละขั้น Funnel
Marketing Funnel มีหลายระดับ บางตำราก็แบ่งแยกย่อยพฤติกรรมลูกค้าไปเยอะแยะมากมาย
แต่ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสแค่ระดับพื้นฐานก่อน เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ไม่ปวดสมอง ประยุกต์ใช้กับแคมเปญโฆษณาได้ทันที
- Tofu(Top of funnel) หรือ Awareness stage คือ ขั้นตอนการรับรู้แบรนด์ ทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น
- Mofu(Middle of funnel) | Interest stage คือ ขั้นที่ลูกค้าเริ่มสนใจ เริ่มเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติม
- Mofu(Middle of funnel) | Consideration stage คือ ขั้นที่เริ่มคิดถึงแบรนด์ เริ่มทำการเปรียบเทียบ
- Bofu(Bottom of funnel) | Purchase, Decision คือ ขั้นที่ลูกค้าทำการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า
- Bofu(Bottom of funnel) | Retention คือ ขั้นที่เราจะสื่อสารกับลูกค้าเก่าต่างๆเพื่อสร้างยอดขายเพิ่ม
Marketing Funnel แต่ละระดับ
- Tofu(Top of funnel) หรือ Awareness stage
ขั้นตอนการรับรู้แบรนด์ ทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น
เช่น
อ่าน Blog/Article ต่างๆ
ฟัง Podcast ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สนใจ
ดูวิดีโอเกี่ยวกับแบรนด์ หรือวิดีโอให้ความรู้ต่างๆ
ตามข่าวสารอัพเดทของแบรนด์ทาง Social Media
ถ้าทำโฆษณาใน stage นี้ก็ต้องทำให้ user รับรู้ให้ได้ว่าเราช่วยแก้ปัญหาอะไรให้เค้าได้บ้าง จี้ที่ Painpoint หนักๆ หาคนเข้ามาในกรวยให้ได้มากที่สุด(ส่วนใหญ่ FB ผมจะใช้เป็นวิดีโอ ดักคนได้เยอะ)
การใช้ Influencer
- Mofu(Middle of funnel) | Interest stage
ขั้นตอนที่ user เริ่มรู้จักตัวแบรนด์คุณแล้ว เค้าจึงเริ่มค้นหารายละเอียดยิบย่อยเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าสนใจ ความสงสัย ลึกลงไปอีก ซึ่งการค้นหานี้ก็มักจะเกี่ยวโยงกับแบรนด์ของคุณด้วย
จุดนี้เราก็ต้องทำให้ธุรกิจเรา ค้นหาเจอได้ง่าย มีข้อมูลสินค้าครบครัน พร้อมใช้โน้มน้าวลูกค้าในอนาคตให้ไป Funnel ขั้นถัดไปได้
- Mofu(Middle of funnel) | Consideration stage
ขั้นตอนที่ user เริ่มสนใจแบรนด์มากๆ เริ่มพิจารณาแบรนด์ คิดถึงแบรนด์ รวมถึงเริ่มนำตัวแบรนด์มาเปรียบเทียบกับคู่แข่งเจ้าอื่นๆ อย่าลืมว่าในตลาดก็มีคู่แข่งอีกมากมาย ไม่ว่าจะแข่งด้วยเรื่อง คุณภาพ, ภาพลักษณ์ หรือ ราคา ฯลฯ
ดังนั้นเราจึงต้องคิดกลยุทธ์การตลาดมาตอบสนองคนกลุ่มนี้ให้ลงมาในขั้นตอนถัดไปให้ได้
เช่นทำ Checklist มาเปรียบเทียบคุณภาพ ความคุ้มค่า
หรือ ปล่อยโฆษณารีวิวจากลูกค้า, คำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ อะไรแบบนี้ก็ช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้นใน Funnel ขั้นถัดไป
- Bofu(Bottom of funnel) | Purchase
ขั้นตอนนี้คือ ขั้นตอนการปิดการขาย โดยขั้นตอนนี้เราต้องทำให้ลูกค้าตัดสินใจให้ได้ อาจกระตุ้นลูกค้าด้วยโปรโมชั่น หรือ ประโยคที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าถ้าไม่ตัดสินใจตอนนี้จะพลาดอะไรไป
สิ่งที่สำคัญเลยในการทำ Marketing Funnel คือ
- การตาม Retargeting/Remarketing ในลูกค้าแต่ละช่วง เพื่อดึงให้ลูกค้าที่ยังไม่ตัดสินใจ ทำการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- การเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับแต่ละ stage
เช่นการรันโฆษณา Facebook Ads ถ้าผมต้องการปิดยอดขายใน stage consideration/purchase แต่ผมดันไปใช้ Objective VDO Views อย่างเดียว แบบนี้ก็จะปิดได้ยาก เพราะมันหาคนมาดูวิดีโอ
ดังนั้น ถ้างบน้อย ก็ต้องเลือก Message/Conversion หรือถ้า Retargeting ก็เป็น Reach เป็นต้น หรือถ้าผมเน้นยอดขาย แต่ผมไปรันโฆษณา Youtube Ads อย่างเดียวอะไรแบบนี้มันก็จะได้ยอดขายยากหน่อย
ไม่มีตัวช่วยปิดการขาย แต่ถ้าเน้นการรับรู้ ให้คนดูรับรู้แบรนด์ผ่านการดู VDO ก่อน แล้วค่อยมาทำการตลาดต่อผ่านแคมเปญรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะ FB Message/Conversion/Reach
หรือ Google Search Ads/GDN/Youtubeโฆษณาตัวถัดไป แบบนี้ Youtube Ads อาจจะคุ้มเพราะสร้างการรับรู้ ให้แคมเปญรูปแบบอื่นไปสร้างยอดขายต่อ
ไม่ใช่ว่า Youtube Ads หรือ VDO Views มันรันขายไม่ได้นะ แต่มันต้องใช้ประกอบกับหลายๆรูปแบบแคมเปญ การเลือกเครื่องมือมาใช้ในแต่ละ Funnel จึงสำคัญมาก
สรุปความสำคัญ Marketing Funnel
- ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น และรู้ว่าเรามีกลุ่มหรือฐานลูกค้าอยู่ใน Stage ไหนบ้าง
เพิ่มโอกาสให้เราสามารถทำโฆษณา ใช้ Media หรือทำ Content ต่างๆ ได้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมาย Stage ที่ลูกค้าอยู่ และใช้งบประมาณได้เหมาะสมกับจำนวนของกลุ่มเป้าหมาย - ช่วยให้เราสามารถวางแผน จัดการ เลือก Platform, Media และช่องทางในการโฆษณา รวมถึงบริหารงบประมาณได้เหมาะสมมากขึ้น
- เมื่อวางแผนได้ดีขึ้น เราจะสามารถใช้ช่องทางในการทำ Digital Marketing ต่างๆ ได้ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ วัดผล ปรับปรุง และเห็นแนวทางในการพัฒนาได้มากขึ้น
- เมื่อเห็นช่องทางในการพัฒนา เราจะสามารถสเกลธุรกิจของเราได้ ไม่ตัน เพราะรู้จุดแข็ง จุดด้อย จุดที่ต้องเพิ่ม/ลดการบริหาร รู้วิธีการดึงลูกค้า และปิดการขายได้อย่างเหมาะสม
- ยอดขายและ ROI เมื่อสามารถวางแผน บริหารจัดการ และดำเนินการโฆษณาได้มีประสิทธิภาพ เราก็จะได้ยอดขาย และ ROI มากขึ้น และปรับให้เหมาะสมได้ตามความต้องการของเรา
สำหรับคนที่อยากรับข่าวสารอัพเดท รวมถึงพูดคุยสอบถามเรื่อง Digital Marketing ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน พูดคุยข่าวสารอย่างไม่รู้จบ!
Digital Marketing Thailand Hub – ศูนย์รวมนักการตลาดออนไลน์แห่งประเทศไทย
Digital Knowledge Thailand (Ads, Marketing, Content, Production & Website)
เติร์ด ทศพร นักการตลาดออนไลน์ ทำงานใน Digital Agency
รับทำโฆษณา, เว็บไซต์ WordPress และ Production
Facebook ads, Google ads, Google Analytics และ Google Tag manager
ทำโฆษณา, เขียน Blog และแชร์ความรู้